HERBAL TEA Packaging Design Brand Concept : The Journey of Tea
- Nacharawee Sontidpanya
- Jul 26, 2024
- 3 min read
การเดินทางที่ผสมผสานกับความเป็นไทย เรื่มต้นจากประเทศจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ตะวันออกกลาง อังกฤษ และประเทศไทย โดยสอดแทรกเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ภายใต้การออกแบบที่โมเดิร์น
The journey of tea is a fascinating exploration spanning centuries and cultures, originating in ancient China and spreading throughout the world.

ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและสำคัญในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ต้นกำเนิดของการดื่มชามีหลักฐานที่เชื่อว่ามาจากประเทศจีนประมาณ 2737 ปีก่อนคริสตกาล ตามตำนาน เล่ากันว่าจักรพรรดิ Shen Nong ค้นพบชาโดยบังเอิญเมื่อใบชาจากต้นชาได้ตกลงไปในน้ำร้อนที่เขากำลังดื่ม
ต่อมาในราชวงศ์ถัง (618-907) ชาได้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในประเทศจีน และการดื่มชาได้แพร่หลายไปยังญี่ปุ่นผ่านทางพระสงฆ์ที่เดินทางมาศึกษาพุทธศาสนาในจีน
ในศตวรรษที่ 9 การดื่มชาได้แพร่หลายไปยังโลกอิสลาม และในศตวรรษที่ 16 นักสำรวจชาวยุโรปได้ค้นพบชาในเอเชียและนำกลับไปยังยุโรป ซึ่งทำให้ชาได้รับความนิยมในอังกฤษ และกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในยุคการค้าระหว่างประเทศ
ประวัติศาสตร์ของชานั้นเกี่ยวข้องกับการค้าโลก อาณานิคม และวัฒนธรรมการดื่มชาที่หลากหลาย เช่น ชาจีน ชาญี่ปุ่น ชาอังกฤษ และชารัสเซีย แต่ละที่มีวิธีการเตรียมและดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

Origins in China: Tea has deep roots in Chinese history, dating back to around 2700 BC according to legend, when Emperor Shen Nong discovered tea as a medicinal beverage. Over time, tea cultivation and consumption became integral to Chinese culture, evolving from a medicinal herb to a daily beverage enjoyed for its flavor and stimulating effects.
Spread along the Silk Road: Tea’s popularity grew and it began to spread beyond China’s borders along the ancient Silk Road trade routes. It reached Central Asia, the Middle East, and eventually Europe, where it became a sought-after commodity valued for its rarity and medicinal properties.
Development in Japan: In the 8th century AD, Buddhist monks traveling to Japan introduced tea cultivation and the ritual of tea drinking. This led to the development of the Japanese tea ceremony (chanoyu), a cultural practice that emphasizes harmony, respect, purity, and tranquility.
Expansion during the Colonial Era: During the age of exploration and colonial expansion in the 16th and 17th centuries, European powers like the Dutch, Portuguese, and British established trade routes for tea, particularly from China and later from India and Sri Lanka. Tea became a global commodity and its consumption spread rapidly across Europe and eventually to other continents.
Tea Cultures Worldwide: Today, tea is enjoyed worldwide with diverse cultural variations. Each region has its own unique traditions and preferences, whether it’s the elaborate tea ceremonies in Japan, the chai tea culture in India, or the afternoon tea tradition in England.
Health Benefits and Modern Trends: Beyond its cultural significance, tea is valued for its health benefits due to antioxidants and other compounds that promote well-being. Green tea, black tea, oolong tea, and herbal teas each offer distinct flavors and potential health advantages, contributing to its continued popularity globally.
Sustainability and Innovation: As global demand for tea increases, there is growing emphasis on sustainable farming practices and innovation in tea production. This includes organic farming, fair trade practices, and the development of new tea varieties to meet evolving consumer tastes and preferences.
The journey of tea encapsulates a rich tapestry of history, culture, trade, and innovation, making it much more than just a beverage—it’s a global phenomenon woven into the fabric of societies worldwide.

ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีความหลากหลายและถูกนำมาปรับปรุงและพัฒนาตามวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ความแตกต่างหลักๆ ของชาในแต่ละประเทศมีดังนี้:
ชาจีน
ชาเขียว (Green Tea): ผลิตจากใบชาที่ไม่ได้ผ่านการหมัก มีรสชาติเบา สดชื่น และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ชาอู่หลง (Oolong Tea): ชาที่มีการหมักบางส่วน มีรสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อน
ชาผู่เอ๋อ (Pu-erh Tea): ชาที่ผ่านการหมักและบ่ม มีรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นและหนักแน่น
ชาขาว (White Tea): ผลิตจากยอดอ่อนและใบชาที่ยังไม่ได้เปิด มีรสชาติอ่อน เบา และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ชาญี่ปุ่น
มัทฉะ (Matcha): ชาเขียวที่ถูกบดเป็นผงละเอียด ใช้ในพิธีชงชาและมีรสชาติขมและเข้มข้น
เซนฉะ (Sencha): ชาเขียวที่ผ่านการนึ่ง มีรสชาติสดชื่นและหอมหวาน
เก็นไมฉะ (Genmaicha): ชาเขียวผสมกับข้าวคั่ว มีรสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมของข้าวคั่ว
โฮจิฉะ (Hojicha): ชาเขียวที่ถูกคั่ว มีรสชาติอ่อนนุ่มและกลิ่นหอมของคาราเมล
ชาอังกฤษ
ชาดำ (Black Tea): เป็นชาที่ผ่านการหมักเต็มที่ มีรสชาติเข้มข้นและสามารถดื่มกับนมและน้ำตาล
เอิร์ลเกรย์ (Earl Grey): ชาดำที่ผสมกับน้ำมันจากเปลือกส้มเบอร์กาม็อท มีรสชาติและกลิ่นหอมของผลไม้
อิงลิชเบรกฟาสต์ (English Breakfast): ชาดำที่มีรสชาติแข็งแรง เหมาะกับการดื่มตอนเช้าพร้อมกับอาหารเช้า
ชารัสเซีย
ชารัสเซีย (Russian Caravan): เป็นการผสมผสานของชาดำที่มีกลิ่นหอมของการคั่วและการรมควัน มีรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมควัน
ชาคัสคารัส (Kashmiri Tea): ชาที่ผสมกับเครื่องเทศต่างๆ มีรสชาติหวานและมีกลิ่นหอม
ชาอินเดีย
ชาชัย (Chai Tea): ชาดำผสมกับเครื่องเทศต่างๆ เช่น กานพลู อบเชย ขิง และกระวาน มีรสชาติหวานและเข้มข้น
ดาร์จิลิง (Darjeeling Tea): ชาดำที่มีรสชาติอ่อน เบา และมีกลิ่นหอมของดอกไม้
แต่ละประเทศมีวิธีการเตรียมและดื่มชาที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ชาในแต่ละที่มีรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในยุคปัจจุบัน ชายังคงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ได้รับการดื่มทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน นี่คือบางส่วนของแนวโน้มและลักษณะของการดื่มชาในยุคปัจจุบัน:
ชาในเชิงพาณิชย์และนวัตกรรม
ชาแบบพร้อมดื่ม (Ready-to-Drink Tea):
มีผลิตภัณฑ์ชาแบบพร้อมดื่มที่หลากหลาย เช่น ชาเย็น ชาอัดลม และชาเพื่อสุขภาพ
มีรสชาติและส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น ผลไม้ น้ำผึ้ง และสมุนไพร
ชาแบบถุง (Tea Bags):
ชาแบบถุงยังคงเป็นที่นิยม เนื่องจากสะดวกในการเตรียมและดื่ม
มีหลากหลายประเภทและรสชาติ เช่น ชาดำ ชาเขียว ชาผลไม้ และชาสมุนไพร
ชาออร์แกนิกและชาเพื่อสุขภาพ:
ชาออร์แกนิกได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดสารเคมี
ชาเพื่อสุขภาพ เช่น ชาดีท็อกซ์ ชาลดน้ำหนัก และชาที่มีสมุนไพรเพื่อสุขภาพต่างๆ
วัฒนธรรมการดื่มชาในยุคปัจจุบัน
ร้านชาและคาเฟ่ชา:
ร้านชาและคาเฟ่ชาได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีการนำเสนอชาในรูปแบบต่างๆ เช่น ชาแบบดั้งเดิม ชาแบบผสมผสาน และชาครีเอทีฟ
การเสิร์ฟชาในบรรยากาศที่สวยงามและผ่อนคลาย
ชาและวัฒนธรรมการดื่มชาทั่วโลก:
การดื่มชากลายเป็นประสบการณ์ที่คนทั่วโลกสนใจ เช่น การชงชาแบบญี่ปุ่น (Tea Ceremony) การดื่มชาแบบอังกฤษ (Afternoon Tea) และการดื่มชาแบบจีน
เทรนด์ชาใหม่ๆ
ชานมไข่มุก (Bubble Tea หรือ Boba Tea):
ชานมไข่มุกเป็นที่นิยมอย่างมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียและอเมริกา
มีหลายรสชาติและส่วนผสม เช่น ชานม ชาผลไม้ และท็อปปิ้งต่างๆ
มัทฉะ (Matcha):
มัทฉะได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก ไม่เฉพาะในญี่ปุ่น
ถูกนำมาใช้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่ม และอาหาร
ชาสมุนไพรและชาผลไม้:
ชาสมุนไพรและชาผลไม้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีนและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
การตลาดและการขายชาออนไลน์
การขายชาออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19
ผู้บริโภคสามารถซื้อชาหลากหลายประเภทจากทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ชาในยุคปัจจุบันยังคงเป็นเครื่องดื่มที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และมีการพัฒนาและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
ดังนั้นเราจึงได้นำเอาเรื่องราวการเดินทางของชา มาเป็นคอนเซปท์ในการออกแบบ และนำลายเส้นไทยไม่ว่าจะเป็นตัวละคร สมุนไพร หรือลายสำคัญของไทยมาผสมผสาน และมีกลิ่นอายความไทยโมเดิร์น
Comments